บำรุงสายตาด้วย แอลซีวิต เอ พลัส
โลกปัจจุบันนี้เด็กๆ จะต้องเจอกับสภาวะแสงแดดที่จ้าขึ้น รวมถึงแสงจากคอมพิวเตอร์ ทีวี เกมส์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตซึ่งมีแสงสีฟ้าติดต่อกันเป็นระยะเวลานานในชีวิตประจำวันแสงเหล่านี้มีผลกระทบต่อดวงตาโดยตรง ดังนั้นจึงควรปกป้องรักษาสุขภาพของดวงตาด้วยการหลีกเลี่ยงสภาวะดังกล่าว หรือควบคุมดูแลให้อยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม รวมถึงควรบริโภคสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อดวงตา
สำหรับเด็ก ร่างกายต้องการสารอาหารหลายชนิด เพื่อใช้ในการเสริมสร้างเนื้อเยื่อและโครงสร้างเหล่านี้ได้แก่ วิตามินเอ-ดีเอชเอ ทอรีนและสารอาหารลูทีน (Lutein) ซึ่งเป็นสารอาหารใหม่ที่กำลังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ต่างประเทศ ในฐานะสารอาหารสำคัญที่ช่วยปกป้องจอประสาทตาของเด็กเล็กจากแสง และป้องกันอาการจอประสาทตาเสื่อม
ลูทีนเป็นสารที่มีปริมาณมากในจอประสาทตา หรือเรตินาบริเวณ Macula Luteaซึ่งมีหน้าที่สำคัฐในการปกป้องเซลล์รับภาพบริเวณจอประสาทตา ที่มีความสำคัญในการมองเห็น โดยลูทีนจะทำหน้าที่ในการต้านปฏิกิริยาอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในดวงตา และกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของมนุษย์ ) รวมถึงดวงตาเด็กที่บอบบาง
ลูทีน (Lutein) เป็นสารธรรมชาติที่มีในนมมารดา และในพืชผักผลไม้หลายชนิด เป็นสารในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ โดยจะพบได้ในบริเวณดวงตาตรงบริเวณเลนส์ตาและจอรับภาพของตาในธรรมชาติแล้วแม้จะมีแคโรทีนอยด์มากกว่า 600 ชนิด แต่มีเพียง 2 ชนิดนี้เท่านั้นที่พบในจุดรับภาพขอจอตา หนึ่งในนั้นคือลูทีนซึ่งทำหน้าที่ช่วยกรองหรือป้องกันรังสรีจากแสงแดดและแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตา และช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลายโดยการลดอนุมูลอิสระ ดังนั้นจึงทำหน้าที่บำรุงตาทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว พืชผักที่มีสารลูทีนโดยมากมักจะเป็นผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีเขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด แครอท ฟักทอง ผักกาด ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขมฯ การบริโภคพืชผักที่มีลูทีนหรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสาระสำคัญนี้มีประโยชน์ในโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม
กลไกของลูทีนสามารถลด ป้องกัน หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้นั้น เป็นเพราะลดกลไกลการเกิดความเสื่อมของโรคต้อกระจกโดยตรง และการที่แคโรทีนอยด์มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดต้อกระจก มีการวิจัยในกลุ่มผู้สูงอายุต่างๆ พบว่ากลุ่มที่มีระดับของลูทีนในกระแสเลือดสูงจะมีความขุ่นของเลนส์ตาน้อยกว่า ซึ่งเป็นการวิจัยของจักษุแพทย์และผู้วิจัยสรุปได้ว่า ลูทีนน่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สุงอายุได้จริง ยังมีการวิจัยว่าการรับประทานลูทีนในปริมาณสูง เพิ่มความสามารถในการมองเห็นของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยสี้เป็นการวิจัยที่มีการออกแบบแผนการวิจัยมาอย่างดี และทำการทดลองเป็นเวลานานถึงสองปี จากการวิจัยทั้งหมดนี้จึงเป็นที่ยอมรับว่า ลูทีนช่วยลดอุบัติการณ์โรคต้อกระจกได้จริง
นอกจากลูทีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้วยังพบว่ามีประโยชน์ในโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆ การศึกษาสนันสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่าถ้าปริมาณลูทีนในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสื่อมมากขึ้นในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อม และความเสี่ยงในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลง หากมีปริมาณลูทีนในเลือดสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าการบริโภคอาหาที่มีลูทีนสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้
วิตามินเอ มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ที่สำคัญคือช่วยในการมองเห็น โดยไปร่วมใช้ในการสร้างสารที่ใช้ในการมองเห็น หากขาดจะทำให้มองเห็นได้ยากในเวลากลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย และทำให้เยื่อแห้ง กระจกตาเป็นแผลในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามินเออย่างรุนแรง อาจทำให้ตาบอดได้
ราคาสมาชิก 435 บาท
ราคาสมาชิก 435 บาท
...........................................................................
สามารถนำรหัสสมาชิก 15064358 ไปซื้อได้ที่ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ
แวะชมสินค้าอื่นๆ ที่นี่ค่ะ http://www.shopdd.biz/?shop=holiday
แวะพูดคุยกัน Line Id : waapz
สามารถนำรหัสสมาชิก 15064358 ไปซื้อได้ที่ศูนย์ธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ
แวะชมสินค้าอื่นๆ ที่นี่ค่ะ http://www.shopdd.biz/?shop=holiday
แวะพูดคุยกัน Line Id : waapz
แอลซีวิตพลัสเอ-ลูทีน ซีแซนทีน บำรุงดวงตา ช่วยต้อกระจก เลนส์ตาขุ่น
ตอบลบกล่อง 30 เม็ด 580 บาท ลด 25% เหลือ 435 บาท
มองจอบ่อย รับแสงสีฟ้ามาก ๆ มาดูซิว่า
ลูทีน ซีแซนทีน และ วิตามินเอ มีประโยชน์ต่อดวงตาอย่างไร คลิกดูได้เลยจ้า ..
===========
📍📍 ถนอมและบำรุงดวงตา 📍📍
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับลูทีน ซีแซนทีน และวิตามิน เอ
ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxannthin) เป็นสารธรรมชาติที่มีในพืชผักผลไม้หลายชนิด เป็นารในตระกูลของสารแคโรทีนอยด์ และพบได้ในบริเวณดวงตาตรงบริเวณเลนส์ตา และจอรับภาพของตา
ซึ่งในธรรมชาติแล้วแม้ว่าจะมี แคโรทีนอยด์มากกว่า 600 ชนิด แต่มีเพียงสาร 2 ชนิดนี้เท่านั้นที่พบในจุดรับภาพของจอตา และสารทั้งสองชนิดนี้จะทำหน้าที่ช่วยกรอง หรือป้องกันรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายต่อดวงตา และช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตาไม่ให้ถูกทำลาย โดยการลดอนุมูลอิสระ ดังนั้นจึงทำหน้าที่บำรุงตา ทำให้จอตาไม่เสื่อมเร็ว พืชผักที่มีสารลูทีนและซีแซนทีนโดยมากมักจะเป็นผักผลไม้ที่มีสีเหลืองและสี เขียวเข้ม เช่น ข้าวโพด แครอท ฟักทอง ผักกาด ผักปวยเล้ง คะน้า ผักโขมฯ การบริโภคพืชผักที่มีลูทีนและซีแซนทีน หรือแม้แต่อาหารสุขภาพที่มีสารสำคัญนี้จะมีประโยชน์ในโรคหลายชนิดด้วยกัน ที่สำคัญคือ โรคต้อกระจก และโรคจุดรับภาพเสื่อม
📍📍 โรคต้อกระจก 📍📍
โรคต้อกระจก คือ ภาวะที่กระจกตา หรือเลนส์ตาขุ่น ทำให้แสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้ ตามปกติ ต้อกระจกไม่ใช่โรคติดต่อ ต้อกระจกจะค่อยๆ ขุ่นไปอย่างช้าๆ ใช้เวลาเป็นปีๆ และสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด
📍📍 โรคจุดรับภาพเสื่อม 📍📍
โรคนี้เกิดจากการเสื่อมของจุดรับภาพ (Macular) วึ่งเป็นกลางจอตา (Retina) ทำให้การมองเห็นภาพเบลอบิดเบี้ยว บางครั้งอาจรุนแรงขนาดเห็นจุดดำมาบังภาพอยู่ตลอดเวลา
📍📍 ลูทีนและซีแซนทีนกับโรคต้อกระจก 📍📍
กลไกของลูทีนและซีแซนทีน สามารถลด ป้องกัน หรือชะลอการเกิดต้อกระจกได้นั้น เป็นเพราะลดกลไกการเกิดความเสื่อมของโรคต้อกระจกโดยตรง และการที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดต้อกระจก มีการวิจัยในกลุ่มผู้สูงอายุต่างๆ พบว่ากลุ่มที่มีระดับของลูทีนและซีแซนทีนในกระแสเลือดสูง จะมีความขุ่นของเลนส์ตาน้อยกว่า ซึ่งเป็นการวิจัยของจักษุแพทย์ และผู้วิจัยสรุปว่า ลูทีนและซีแซนทีนน่าจะลดการเกิดความเสื่อมของเลนส์ตาในผู้สูงอายุได้จริง ยังมีการวิจัยว่าการรับประทานลูทีนในปริมาณสูง เพิ่มความสามารถในการมองเห็นของผู้ป่วยที่เป็นต้อกระจกไปแล้ว การวิจัยนี้เป็นการวิจัยที่มีการออกแบบแผนการวิจัยมาอย่างดี และทำการทดลองเป็นเวลาถึงสองปี
การวิจัยที่ Harvard School of Public Health, Boston ในผู้ชาย 36,644 คน ที่ได้รับอาหารเสริมและวิตามินต่างๆ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมเป็นลูทีนและซีแซนทีน จะลดความเสื่อมของโรคต้อกระจกถึง 19% และที่ University of Massachusetts ทำวิจัยในสุภาพสตรีถึง 50,461 คน พบว่า ลูทีนและซีแซนทีน จะลดความเสี่ยงของโรคต้อกระจกถึง 22% การวิจัยที่ University of Wisconsin Madison Medical School ในผู้สูงอายุ 43-48 ปี จำวน 1,354 คน พบว่าช่วยลดอุบัติการณ์ของต้อกระจกที่เกิดตรงกลางเลนส์ (Nuclear Cataracts) ได้ถึง 50% จากการวิจัยทั้งหมดนี้จึงเป็นที่ยอมรับว่าลูทีนและซีแซนทีนลดอุบัติการณ์โรค ต้อกระจกในผู้สูงอายุได้จริง
📍📍 ลูทีนและซีแซนทีนกับโรคจุดรับภาพเสื่อม 📍📍
นอกจากลูทีนและซีแซนทีนจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกแล้ว ยังพบว่ามีประโยชน์ต่อโรคจุดรับภาพเสื่อม ซึ่งมีหลายๆ การศึกษาสนับสนุนข้อมูลดังกล่าว โดยพบว่าถ้าปริมาณลูทีนและซีแซนทีนในลูกตาลดน้อยลง จะพบความเสื่อมมากขึ้นในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อม และความเสี่ยงในการเป็นโรคจุดรับภาพเสื่อมจะลดลงหากมีปริมาณลูทีนและซีแซนที นในเลือดสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าการบริโภคอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนสามารถช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคได้
📍📍 วิตามิน เอ 📍📍
วิตามิน เอ มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ ที่สำคัญคือ ช่วยในการมองเห็น (อ้างอิงที่ 13) โดนำไปร่วมใช้ในการสร้างสารที่ใช้ในการมองเห็น หากขาดจะทำให้มองเห็นได้ยากในเวลากลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย และทำให้เยื่อบุตาแห้ง กระจกตาเป็นแผล ในกรณีที่ร่างกายขาดวิตามิน เอ อย่างรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้
วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร
ขนาด 30 แคปซูล
คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค และไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค
✅✅ สอบถาม ปรึกษา การทานอาหารเสริม ให้เกิดประโยชส์สูงสุด
✅✅ สั่งซื้อ Comment , Inbox หรือ Add line ได้ตามสะดวกคะ
✅✅ line id : waapz